Co-extrusion Processing Technology

ที่มาของหลังคา PVC  เป็นที่ทราบกันดีอยู่แล้วว่าการใช้หลังคากระเบื้องนั้นมีปัญหาที่แผ่นเล็ก มีรอยต่อมาก แตกร้าวง่าย มีปัญหารั่วซึมอยู่บ่อยๆ มีน้ำหนักมาก และมีสารแร่ไยหินที่เป็นอันตรายต่อสุขภาพ ไหนยังจะสะสมความร้อนถ่ายเทออกมาเวลาเย็นทำให้สิ้นเปลืองพลังงานไฟฟ้าจากการใช้เครื่องปรับอากาศ เป็นโอกาสที่หลังคาเหล็ก (เมทัลชีท) เข้ามาทำตลาดทดแทนได้เป็นอย่างดีในเรื่องของน้ำหนักเบากว่า ขนาดแผ่นยาวกว่า การติดดั้งสะดวกรวดเร็วกว่า แต่การใช้หลังคาเมทัลชีทก็มีปัญหาใหม่ตามมาอีกคือ การผุกร่อน เกิดสนิม จากสารเคมีและไอทะเล การส่งถ่ายความร้อนมายังใต้หลังคาได้ดี  เกิดเสียงขณะฝนตกดังมาก จึงไม่เหมาะสำหรับโรงงานที่มีสารเคมี โรงงานที่อยู่ใกล้นิคมอุตสาหกรรม โรงงานในจังหวัดชายทะเล สถานศึกษา เป็นต้น

 

วิกฤติปัญหาการใช้หลังคาทั้งสองชนิดดังกล่าว เป็นโอกาสและแรงจูงใจให้นักพัฒนาได้วิจัยค้นพบหลังคา PVC แบบชั้นเดียว และพัฒนาต่อยอดขึ้นไปจนถึงหลังคาชนิด Geloy™ ASA/PVC ที่แบ่งเป็นชั้นตั้งแต่ 2-4 ชั้น 
หลังคา PVC แบบชั้นเดียว
การพัฒนาหลังคา PVC  ในขั้นแรกเป็นไปแบบชั้นเดียว ไม่ได้เติมสารเพิ่มเติมแต่อย่างใด ผลลัพธ์ที่ได้มันอ่อนเกินไป ไม่เหมาะแก่การใช้เป็นหลังคา ต่อมาได้มีการแต่งเติมสารเพิ่มความแข็งบางอย่างเข้าไปเป็นส่วนผสม ผลลัพธ์ที่ได้คือแข็งแต่กรอบ ถึงแม้นักวิจัยจะได้พยายามลดปริมาณสาเพิ่มความแข็งนี้ลงเพียงใดก็ตาม ตันยังมีคุณสมบัติไม่เพียงพอต่อการประยุกต์ใช้ประโยชน์เป็นหลังคา  จนกระทั่งเปลี่ยนมาใช้ Plasticizer จึงทำให้เราได้หลังคา PVC ที่ทั้งแข็งและเหนียว ในแบบชั้นเดียว 
หลังคา PVC แบบสองชั้น
 
ถึงแม้ว่าเราจะได้คุณสมบัติของหลังคาด้วยวัสดุ PVC ที่ทั้งแข็งและเหนียว แต่ปัญหาที่พบภายหลังคือการซีดจางของสีที่เร็วเกินไปกว่าการยอมรับของลูกค้าได้ นักวิจัยของโรงงานผู้ผลิตหลังคาบาวเยนจึงจำเป็นต้องพัฒนาสินค้าต่อเนื่องขึ้นไป โดยเพิ่มเป้าหมายในด้านความสวยงามด้วย นั่นคืออยากให้ด้านล่างเป็นสีขาวเพื่อเพิ่มความสว่าง ประหยัดพลังงานไฟฟ้าส่องสว่างและความสวยงามภายในอาคาร ขณะเดียวกันด้านบนที่สัมผัสแสงแดดโดยตรงจะต้องมีความคงทนต่อการซีดจางอันเนื่องมาจากแสงแดด นั่นคือจะต้องค้นหาส่วนผสมเม็ดสีที่ทนแดดหนึ่งปีผ่านไป ขณะที่ บริษัท เยนเนอรัล อิเลคทริค (GE) ได้พัฒนา Geloy®ASA resins ซึ่งเป็นสารประกอบชนิดใหม่ที่ใช้เป็นส่วนผสมพลาสติกที่ใช้ในอุตสาหกรรมเครื่องบินและสินค้าเกรดสูง ASA เรซิ่น จึงนับว่าเป็นสารที่คุณสมบัติดีมาก ความร่วมมือกันระหว่างวิศวกรด้านโพลิเมอร์ทั้งสองบริษัทจึงได้เริ่มขึ้นและสำเร็จลงด้วยดีตามวัตถุประสงค์ โดยผ่านกระบวนการผลิตระบบ CO-Extrudeโดยที่ชั้นบนเป็น ASA เรซิ่นและผงสี ด้านล่างเป็น PVC บริสุทธิ์
หลังคา PVC แบบสามชั้น
ครึ่งปีต่อมา ภายหลังจากการพัฒนาแผ่นหลังคา PVC แบบสองชั้น การต่อยอดเป็นแบบสามชั้นจึงไม่เป็นปัญหาอีกต่อไป ด้วยวัตถุประสงค์ที่ต้องการให้มีชั้นกลางที่มีความแข็งแรงและมีคุณสมบัติเป็นฉนวนเพื่อป้องกันความร้อนจากการถ่ายเทอากาศลงสู่ภายในตัวอาคารได้เพิ่มขึ้น ด้วยเพิ่มสารเติมแต่งผสมไปในเนื้อของ PVC ในชั้นกลางนั่นเองการผลิตแบบสองชั้นหรือสามชั้นคือการหลอมเหลวสารประกอบสองชนิดหรือสามชนิดในเครื่องหลอมเหลวสองเครื่องหรือสามเครื่องในอัตราส่วนที่พอเหมาะ ทั้งส่วนประกอบ อุณหภูมิ อัตราการไหลเข้ามารวมกันแบบซ้อนทับกันเป็นชั้นๆปัจจุบันเรายังพัฒนาผลิตภัณฑ์ไปเป็นสี่ชั้นเพื่อเพิ่มคุณสมบัติบางอย่างตามความต้องการของผู้ใช้เฉพาะกลุ่ม แต่ยังไม่เป็นที่นิยมในวงกว้าง เนื่องจาก คุณภาพที่เพิ่มขึ้นย่อมหมายถึงต้นทุนและราคาย่อมเพิ่มตาม
บทสรุป
โดยที่ในปัจจุบันนี้ เทคโนโลยีการหอมเหลวพลาสติกแบบหลายเครื่องแล้วฉีดไหลมารวมกันเป็นชั้นๆใบแบบหล่อเดียวกัน (Co-Extruded) เป็นที่นิยมอย่างแพร่หลายในอุตสาหกรรมการผลิตหลังคาPVC เนื่องจากสามารถกำหนดคุณสมบัติที่เป็นประโยชน์ต่อการใช้เป็นหลังคาได้อย่างยอดเยี่ยมเหนือชั้นกว่าหลังคากระเบื้องและเมทัลชีท นั่นคือคุณสมบัติทนทานต่อทุกสภาพภูมิอากาศที่เลวร้ายมากขึ้นโดยไม่กรอบแตก ต่อการกรัดกร่อนของสารเคมีทัง กรด ด่าง เกลือ ทนแรงตกกระแทก ซึ่งเป็นคุณสมบัติที่ทั้งกระเบื้องและเมทัลชีทไม่เคยมี และสามารถใช้ทดแทนกันได้อย่างสมบูรณ์ในอนาคต เราคงจะได้เห็นการประยุกต์ใช้เทคโนโลยี่ Co-Extruded กันอย่างแพร่หลายในอุตสาหกรรมพลาสติก เพื่อกำหนดคุณสมบัติของพลาสติกให้ได้ตามความต้องการของผู้ใช้